โหมโรง!!! โหมโรง!!! โหมโรง!!! ในสาระความเข้าใจของคนทั่วๆ ไป มีนัยของการแสดงละคร นาฎดนตรี โดยเริ่มออกแขกออกโรงการแสดง เสียงกลอง เสียงปี่พาทย์ประสานเสียงเข้าจังหวะจะโคน เหมือนหนังไทยเรื่องโหมโรงนั่นแหละ เด็กๆ รุ่นใหม่คงจะเข้าใจนะครับ
ข้าพเจ้าฯ ขออนุญาตเรียกตัวข้าพเจ้าเองแทนคุณพ่อของลูกๆ นักเรียนนักศึกษา (คุณพ่ออายุ 60 ปี เด้อ) ว่าคุณพ่อ และคุณพ่อจะเล่าถึงประสบการณ์ชีวิตในหลายด้านที่จะเป็นประโยชน์ต่อลูกๆ นักเรียน นักศึกษาตลอดจนบุคคลทั่วไป
มีนักเขียนหลายๆ ท่านได้เขียนถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิต ถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก การถ่ายทอดสิ่งที่ได้ผ่านการทดลอง การปฏิบัติ ทั้งผิดทั้งถูก ของชีวิตในการทำงาน การดำรงชีพ ปัญหาในหลายๆ รูปแบบ ซึ่งเป็นประสบการณ์จริง ไม่มีการสอนในสถาบัน และทุกๆ ท่านมีสิทธิที่จะเขียนประสบการณ์ของตนเอง เล่าสู่กันฟังต่อบุคคลทั่วไป ลูกๆ น่าจะหาโอกาสอ่านและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากผู้เขียนทุกท่าน โดยไม่ต้องลองผิดลองถูก เพียงแต่ประยุกต์บ้างให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ของตนเอง จะถือว่าเป็นประโยชน์มากต่อความสำเร็จในการทำงานและการดำรงชีวิต
สำหรับคุณพ่อมีประสบการณ์อะไรหรือที่จะมาเล่าสู่กันฟัง? คุณพ่อทำงานที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง โดยหน้าที่ต้องทำงานแบบครอบจักรวาล ต้องทำงานตามหลักวิชาการและใช้จิตสำนึกความรู้สึก เพียงแต่ใช้หลักวิชาการมากกว่า
ปรัชญาการบริหารและจัดการ (เป็นที่ยอมรับทางสากล)
- ใช้หลักวิชาการและข้อมูล ประมาณ 80%
- ใช้จิตสำนึก/ความรู้สึก 20%
การบริหารและจัดการจะประสบความสำเร็จ
- ให้เวลากับการเรียนมากๆ (ทั้งในและนอกเวลา)
- มีสมาธิในการเรียน
- สอบถามครู/อาจารย์/หาความรู้จากห้องสมุด
- (คุณพ่อขอเพิ่มเติม) การเรียนหนังสือแต่ละบทให้จัดทำเป็น (Block Diagram) ขั้นตอนของเนื้อหา ตำรา 1.... 2.... 3.... ฯลฯ จะทำให้เข้าใจได้มากและลงลึกได้มากขึ้น
ประโยชน์ของข้อ 4. จะทำให้เข้าใจในความต่อเนื่องของบทเรียนและลดจำนวนหน้าตำราจาก 200-300 หน้า เหลือเพียง 20-30 หน้า
ข้อคิด
การเรียนคือการลงทุน ค่าขนม ค่าเดินทาง ค่าตำรา ค่าเวลาที่นั่งเรียน ความทุกข์ยากลำบากของพ่อ-แม่ในการทำมาหากิน ควรจะศึกษาหาความรู้ให้มาก อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ค่า ถือว่าขาดทุน
รักลูกทุกคนเด้อ
จากพ่อ
20 สิงหาคม 2552
Thank you for your information. I will follow your blog ..
ReplyDelete