Wednesday, September 23, 2009

ฟัน...ปัญหาที่ทุกคนอยากหลีกเลี่ยง

ข้อความเล็กๆ  ในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง  ข้อความคนอังกฤษจำนวนมากเป็นโรคเหงือกและฟัน หนังสือพิมพ์ไทย คนไทย 80% เป็นโรคเหงือกและฟัน 2 คอลัมน์แสดงให้เห็นว่าปัญหาโรคเหงือกและฟันมีอยู่ทั่วโลก

คุณพ่อก็ศึกษาทดลองและเป็นโรคเหงือกมาแล้ว และสรุปสภาพการณ์ของโรคเหงือกและฟันดังนี้ (ประสบการณ์ตรง)

    1. เหงือกอักเสบ สาเหตุจาก แปรงฟันผิดวิธี คือ แปรงฟันลง-ขึ้น (นี่ถูกต้องแปรงลงอย่างเดียว) มีผลทำให้เงือกเปิด เหงือกไม่เกาะติดกับคอฟันและเกิดช่องว่าง เกิด plague (พลัค) ได้ง่าย
    2. การใช้ไม่จิ้มฟันปลายทู่ (ไม่แหลม) จิ้มเหงือก เพื่อขจัดเศษอาหาร มีผลให้เหงือกช้ำและเปิด
    3. การแปรงฟันไม่ทั่วถึงทำให้การทำความสะอาดฟันไม่สะอาด ในส่วนที่เป็นด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง
    4. การแปรงฟันต้องแปรงโคนลิ้น และแปรงเหงือกลงมาตามร่องฟัน (อย่าแปรงย้อนขึ้นเหงือกจะปิด)
    5. ถึงแม้จะไปหาหมอฟันตามกำหนดเวลา 6 เดือนต่อครั้ง หมอฟันก็เคลียร์หินปูนและเหงือกอักเสบเป็นหนองและมีกลิ่นปาก
  • ปัญหา หมอฟันที่คลินิกมีผู้ป่วยมาก ทำให้หมอมีเวลาที่จะเคลียร์ฟันน้อย (เคลียร์ไม่ทั่วถึง บางครั้งเคลียร์เฉพาะในส่วนของคอฟัน หินปูนที่อยู่ใต้คอฟันหมอไม่ได้ขูดออก หินปูนจึงสะสม เหงือกอักเสบ (เป็นหนอง)
  • วิธีการแก้ไข
    1. คลินิกหมอฟันทำหน้าที่ขั้นต้น (First aid) ไปรักษาเหงือกและฟันที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ฯลฯ
    2. ต้องเพิ่มความเอาใจใส่ รักษาฟันให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้แปรงซอกฟัน ไหมขัดฟัน แปรงที่มีปลายงอน เคลียร์ฟันทั้งด้านหน้า ด้านหลัง (มีขายที่คณะทันตแพทย์ฯ
    3. กรณีที่รับประทานอาหารแล้วเศษอาหารไปค้างอยู่ในช่องหลอกลม ทำให้มีกลิ่นบูดเน่าของเศษอาหารในช่องหลอดลม ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
  • ปัญหา คือ การไม่รู้ว่าจะเคลียร์เศษอาหารออกจากช่องหลอดลมได้อย่างไร
  • วิธีการแก้ไข (ไม่ต้องไปหาหมอ เพราะหมอก็ไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไร เพียงแต่แนะนำให้กินอาหารช้าๆ และในอินเตอร์เน็ตก็ไม่เคยมีหมอแนะนำว่าให้ทำอย่างไร)
    • การแก้ไขเคลียร์เศษอาหารในช่องหลอดลม ก็คือการอมน้ำที่ใช้อาบ) ประมาณ ¾ ความจุช่องปากและงับปากลง แล้วใช้โคนลิ้นดันน้ำ (Flush) ปริมาณน้ำจะถูกลิ้นดันขึ้นไปด้วย ความแรงพอควรสู่ช่องหลอดลม แรงน้ำจะไปชะล้างเศษอาหารที่ตกค้างบูดเน่าในช่องหลอดลม (ทำใหม่ๆ อาจจะสำลักน้ำบ้าง แต่ต่อไปจะไม่สำลัก) โดยชะล้างเศษอาหารออกหมด ลมหายใจจะสะอาดนะจ๊ะจะบอกให้

รักลูกๆ ทุกคน

คุณพ่อ

13 ก.ย. 52

No comments:

Post a Comment